ในยุคที่โควิดทำตัวเหมือนเป็นคนคุย ที่บอกเราว่าไปอาบน้ำแป๊บนึง แล้วก็หายไปเกือบปีสุดท้ายก็ทักมาสั้นๆ ว่า “ไง” แล้วทำให้เจ็บปวดเจียนตาย ต้องกลับมาเรียนออนไลน์กันยาวๆ จะได้ไปสนุกกับเพื่อนๆ ที่โรงเรียน ที่มหาวิทยาลัยอยู่แล้วเชียว ต้องมานั่งซีดเซียวอยู่ในห้องอีกแล้ว เอาละค่ะ เรามาแชร์กันดีกว่าว่าความเครียดของการเรียนยุคโควิดที่แต่ละคนประสบพบเจอ เป็นอย่างไรกันบ้าง แล้วพอจะหาทางออกหรืออยู่ร่วมกับมันในสถานการณ์แบบนี้อย่างไรดีใครอยากระบายอะไร เจอกันในคอมเมนต์ได้เลยนะคะ
—–
เตียงดูดวิญญาณ เมื่อเสียงอาจารย์คือยานอนหลับ
เชื่อว่าสถานที่ในการเรียนออนไลน์ของน้องๆ หลายต่อหลายคน อาจจะหนีไม่พ้นพื้นที่ส่วนตัว ซึ่งน่าจะสร้างสมาธิได้ดีที่สุดในบ้านได้ อย่าง “ห้องนอน” แน่ๆ เพราะบางบ้านอาจจะไม่ได้มีห้องทำงาน ห้องอ่านหนังสือ ห้องสมุด ที่จะได้ไปนั่งเรียนอย่างเป็นสัดส่วน และเป็นส่วนตัว ห้องนอนจึงเป็นสถานที่ที่ตอบโจทย์ที่สุด และห้องนอนของแต่ละคนก็ไม่น่าจะเหมือนกัน
บางคนอาจจะเหมือนเป็นคอนโดย่อมๆ มีโต๊ะทำงาน มีทุกอย่างให้คุณเลือกสรร แต่สำหรับบางคนที่อาจจะต้องติดอยู่ที่หอพัก ก็คงหนีไม่พ้นพื้นที่ใหญ่ที่สุดอย่างเตียงนอน ที่ต้องกลายมาเป็นโต๊ะเรียนชั่วคราว ที่ทำหน้าที่ได้ไม่ดีเอาเสียเลย เพราะนอกจากฟังก์ชั่นจะไม่ได้แล้ว ยังชวนง่วงเป็นที่สุด แถมแผ่พลานุภาพให้เสียงอาจารย์ที่พยายามบรรยายอย่างมุ่งมั่นทำหน้าที่ขับกล่อมเสมือนยานอนหลับชั้นดี รู้ตัวอีกที อ้าว! กลายเป็นนักเรียนดีเด่น ตายในหน้าที่ซะอย่างนั้น แบบนี้เรียนยังไงก็ไม่รู้เรื่องแน่นอน ฮั่นแน่! หลายคนอาจจะรู้แกว และหาทางแก้ว่าหนูรู้ว่ามันไม่รอดแต่แรกแล้ว เลยอาจจะหาทางออกด้วยการย้ายฐานทัพไปห้องสมุด ร้านกาแฟ คาเฟ่ ห้องเพื่อน แล้วแต่จริตและความสะดวก แต่เอาเข้าจริงก็ค่อนข้างสวนทางกับการพยายามให้นักเรียน นักศึกษา Social Distancing อยู่พอตัว เพราะที่ต่างๆ น้านนนน คนไม่น้อยเอาเสียเลยจริงไหมจ๊ะ เพราะฉะนั้นพี่ๆ จึงอยากให้น้องๆ รู้ตัวให้ไว ว่าสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการเรียนรู้ของเราเป็นแบบไหน ต้องการความเป็นส่วนตัว เงียบสงบ มีโต๊ะ เก้าอี้ เป็นกิจจะลักษณะประมาณไหน ถ้าใครชิลๆ เรียนในห้องนอนได้ไม่มีปัญหาก็โชคดีไป หรือจะจัดฮวงจุ้ยห้องนอนให้สว่าง สะอาด สงบพร้อมเรียนเสมอ ถ้าง่วงก็เตรียมกาแฟ น้ำ ขนมขบเคี้ยวมากินแก้ง่วง แต่ถ้าใครทำไม่ได้ ไม่ไหวอย่าฝืนจ้ะ พาตัวเองไปอยู่ในสถานที่ที่เหมาะสม ถ้าต้องออกไปข้างนอกที่คนเยอะจริงๆ ก็อาจจะต้องใส่หน้ากาก พกสเปรย์แอลกอฮอล์ติดตัวไว้ตลอดด้วยนะ เพราะถ้าทนเรียนไม่รู้เรื่องในสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยต่อไป สอบออนไลน์ออกมาอาจจะไม่ได้คะแนนอย่างที่หวังเอาค่ะ
—–

เน็ตสะดุด ฉุดการเรียนรู้

อีกหนึ่งอุปสรรคสำคัญของการเรียนออนไลน์ นั่นก็คือ อุปกรณ์การเรียนและอินเทอร์เน็ตนั่นเอง แน่นอนว่าไม่ใช่แค่เครื่องเขียน แท็บเล็ตก็เพียงพอเหมือนตอนเรียนในห้อง เพราะเรายังต้องมีจอหลักเพื่อเรียน และยังต้องมีการจดเลคเชอร์อีกที ใครถนัดเขียนก็อาจจะไม่มีปัญหาเท่าไร แต่ถ้าใครชอบจดในแท็บเลตหรือไอแพด แปลว่า ต้องมีอุปกรณ์มากกว่า 1 จอแน่นอน
ไหนจะเรื่องสำคัญอย่างอินเทอร์เน็ต หลายคนอาจจะเคยเห็นข่าวนักเรียนต้องหอบคอมฯ ออกมาเรียนกลางทุ่งเพราะสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่บ้านไม่ดี นี่ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญจริงๆ แม้จะต้องยอมรับว่าทำให้ช่องว่างทางการศึกษาของนักเรียนที่พร้อม กับไม่พร้อมยิ่งห่างกันออกไปทุกทีก็ตาม สิ่งที่เราทำได้ตอนนี้คือต้องเรียนในที่สัญญาณไม่สะดุด จะไม่ได้ไม่ฉุดทุกการเรียนรู้
ยิ่งถ้าใครไม่ถนัดเรียนในห้องนอนหรือที่บ้าน ต้องออกมาข้างนอกที่มีคนแย่งกันใช้เน็ตจำนวนมากอย่างคาเฟ่ ร้านกาแฟ Co-working space ต่างๆ ก็อาจจะต้องคำนึงถึงเรื่องสัญญาณด้วยนะคะ 

ฝากไว้ให้คิด
—–
ยูนิฟอร์มใหม่ คือชุดนอน
น้องๆ คนไหนที่ความง่วงไม่สามารถหยุดเราได้ การเรียนในห้องนอนไม่เป็นปัญหา หรือไม่สะดวกที่จะต้องออกไปหาที่เรียนข้างนอก เสียค่าเครื่องดื่มเพื่อสถานที่ในการเรียนทุกวันๆ
และตกลงใจเรียนที่ห้องนอนแล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่พี่ๆ เป็นห่วงคือ การจัดสรรเวลานะคะ เพราะเมื่อเรียนออนไลน์แล้ว การทำกิจกรรมในห้องจะหายไป การบ้านจึงมาในรูปแบบของการค้นคว้านอกเวลาแทบทั้งหมด เด็กบางคนจึงต้องใช้เวลาหลังจากเรียนออนไลน์ หมดไปกับการทำรายงาน ทำการบ้านที่แน่นอนว่าไม่ได้มีแค่วิชาเดียวแน่นอน ยิ่งถ้าห้องสมุดบางแห่งปิดในช่วงนี้ เหลือแต่การหาข้อมูลออนไลน์ด้วยแล้ว น้องๆ อาจจะต้องขลุกอยู่ในห้องแทบทั้งวัน บางคนตื่นมาในชุดนอนแล้วก็ต้องเริ่มเรียนเลย จนเย็นก็ยังอยู่ในชุดนอนอยู่ดี แบบนี้พี่ๆ ว่าไม่ดีแน่ที่เส้นแบ่งระหว่างการเรียนและการพักผ่อนแทบจะทาบทับเป็นเส้นเดียวกัน ซึ่งจะทำให้เสียสุขภาพจิต และพักผ่อนไม่เป็นเวลาเอาได้นะคะ ส่วนคนไหนที่ดองเทปไว้ไม่ยอมเรียนแต่ไม่ออกจากห้องเพราะมัวทำอย่างอื่น ลากตัวเองกลับมาฟังเสียงอาจารย์ไม่ได้สักที ต้องรีบแล้วนะคะ หาเพื่อน หาบรรยากาศได้ออกไปเจอออะไรใหม่ๆ ขุดตัวเองขึ้นมาให้ได้ เพราะถ้าสอบตกแล้วต้องกลับมาฟังเรื่องเดิม สอบแบบเดิมๆ ผ่านออนไลน์อีก อาจจะยิ่งรับไม่ไหวเอาได้นะ สุดท้ายนี้เอาใจช่วยน้องๆ ที่ยังคงต้องเรียนออนไลน์ทุกคนนะคะ บอกเลยว่านักเรียน นักศึกษายุคนี้เก่งและสตรองมากๆ  ขอให้อดทน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโจทย์ท้าทายและผ่านไปให้ได้นะคะ แต่ถ้าเหนื่อย หรือไม่ไหวยังไง หันมารอบตัวยังมีครอบครัว เพื่อนๆ คนที่รักเรา และพี่ๆ จาก The Coach คอยเป็นกำลังใจและให้คำปรึกษาอยู่เสมอ สู้ๆ นะคะ