พูดถึงการเรียนออนไลน์ ทั้งผู้ปกครองและน้องๆ หลายคนอาจจะเพิ่งมาคลุกวงในกับการเรียนออนไลน์อย่างจริงจังในช่วง Covid-19 นี่เองใช่ไหมคะ ซึ่งจริงๆ แล้วการเรียนออนไลน์มีมานานมาก ยิ่งในยุคของการสื่อสารไร้พรมแดน เราสามารถหาความรู้ได้ทุกเรื่องเพียงแค่มีอินเทอร์เน็ต ยิ่งทำให้การเรียนออนไลน์เป็นไปได้อย่างง่ายดาย แต่แน่นอนว่าการเรียนลักษณะนี้ย่อมมีทั้งข้อดีและข้อเสีย วันนี้เรามาแชร์ทริคเรียนออนไลน์ยังไงให้ไม่เป็นพิษ เพราะติดอยู่กับ Covid-19 กันค่ะ 

เรามาพูดถึงประโยชน์และข้อดีของการเรียนออนไลน์กันก่อนนะคะ ในยุค 5G นี้เป็นยุคแห่งของการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารแบบไร้ขีดจำกัด เพียงแค่มี Smart phone 1 เครื่อง อยากรู้อะไรก็กด search ความรู้หรือข้อมูลต่างๆ จากแหล่งข้อมูลทั่วทุกสารทิศที่เราสนใจก็จะมาปรากฏอยู่ตรงหน้าอย่างง่ายดายเพียงแค่ปลายนิ้ว เช่นเดียวกับที่มหาวิทยาลัยชั้นนำหลายแห่งของโลกก็ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้ ผลิต Contents online ให้ผู้ที่สนใจสามารถเลือกคอร์สที่ต้องการเรียนได้ ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลก โดยมีทั้งแบบฟรีและเสียเงิน การเรียนออนไลน์จึงสามารถตอบโจทย์ทุกเพศทุกวัยได้แบบไม่จำกัด เพียงแค่ผู้เรียน มีเป้าหมาย ขวนขวายในการเรียนรู้เพิ่มเติม และมีวินับพร้อมที่จะฝึกทักษะต่างๆ ด้วยตนเอง เท่านี้การเรียนออนไลน์ก็มีประโยชน์อย่างมหาศาลแล้ว แต่สำหรับเด็กบางกลุ่มที่อาจจะคุ้นชินกับการเรียนแบบป้อนข้าว หรือการป้อนความรู้ให้ถึงที่ โดยที่ความรู้นั้นอาจจะมาจากหลักสูตรบังคับหรือความสนใจของผู้ปกครองมากกว่าตัวเด็กเอง จึงทำให้เกิดอาการเบื่อหน่าย ไม่เห็นความสำคัญ จนพาลไม่อยากเรียนเอาได้  แต่นี่ก็ไม่ใช่ความผิดของการเรียนออนไลน์เสียทีเดียว เรียกว่าเป็นวิธีการเรียนของแต่ละที่ ที่อาจจะปลูกฝังให้เด็กหาความรู้ด้วยตัวเองได้ไม่เหมือนกัน แต่สำหรับการเรียนออนไลน์ช่วงนี้ ถือว่าเป็นการปรับตัวขนานใหญ่ของเด็กไทยเลยก็ว่าได้ ทั้งวิธีการเรียน การทำการบ้าน หาความรู้ด้วยตัวเอง หรือทำ Online Activities เพื่อประเมินผลทางการเรียน นี่ยังไม่รวมถึงความไม่พร้อมในอุปกรณต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต สถานที่เรียน ที่แต่ละบ้านมีไม่เหมือนกัน ทั้งที่สิ่งแวดล้อมในขณะเรียนมีผลอย่างมากในการเรียน ไม่ว่าจะเป็นด้านสมาธิ และการสร้างแรงจูงใจในการเรียน  ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้การนั่งเรียนออนไลน์อยู่ที่บ้านจึงเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร ไม่นับรวมกับการที่ผู้ปกครองบางคนมองว่าการเรียนที่บ้าน นั่งเฝ้าหน้าจอไปวันๆ ของลูกหลานดูคล้ายกับจะ “ว่าง” อยู่ตลอดเวลา จึงเริ่มสร้างงาน สร้างอาชีพ ให้ช่วยงานต่างๆ มอบหมายหน้าที่ใหม่ให้เด็ก โดยที่ไม่รู้ว่าลูกหลานก็มีความรับผิดชอบต่อการเรียนออนไลน์เช่นกัน หรือบางครั้งอาจจะเป็นน้องๆ เองที่อยู่ในสภาพแวดล้อมเดิมๆ นั่งจ้องจอทั้งวัน ไม่ได้เรียนภาคปฏิบัติจนเกิดอาการเบื่อหน่ายอย่างแรง หลับคาจอให้อาจารย์พูดคนเดียว หรือไม่เรียนแล้ว เดี๋ยวค่อยมาดูอีกทีตอนสอบไปเสียอย่างนั้น  

เพราะฉะนั้น สิ่งที่สำคัญของการเรียนออนไลน์ คือการมีวินัยในตัวเอง ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นจุดวัดที่สำคัญ เราต้องโชว์ให้เห็นว่าเราตั้งใจไม่แพ้ไปเรียนที่โรงเรียน หรือมหาวิทยาลัย ทำการบ้านอย่างเคร่งครัด ไม่ได้เรียนแบบฟังผ่านหูซ้ายทะลุออกหูขวาไปวันๆ เพราะผู้ปกครองหลายคนเชื่อว่าการเรียนออนไลน์เป็นจุดเริ่มต้นของความล้มเหลวทั้งระบบการศึกษาไทย แต่ในช่วงเวลาแบบนี้ ยิ่งสถานการณ์โควิดเลวร้ายลงเท่าไหร่ การเรียนออนไลน์ยิ่งมีบทบาทมากขึ้นเท่านั้น และดูทีท่าว่าจะไม่จบลงง่ายๆ เสียด้วย เราจะฝากอนาคตไว้กับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนไม่ได้ค่ะ น้องๆ ควรตั้งใจเรียน ถ้าเรียนไม่รู้เรื่อง ให้หาความรู้เพิ่มเติมจากแหล่งความรู้อื่นๆ ในเรื่องเดียวกัน เผื่อว่าจะเข้าใจ เห็นภาพมากกว่า รีบหาหนทางที่ใช่ แล้วโชว์ให้เห็นไปเลยว่า เด็กยุคเรียนออนไลน์ ก็เก่งไม่แพ้เด็กยุคไหนๆ เหมือนกัน พอเราเอาจริงเอาจังแบบนี้ ครอบครัวสัมผัสได้ถึงออร่าความตั้งใจจริงแน่นอน คราวนี้เสียงเรียกให้ไปรดน้ำต้นไม้ กวาดบ้าน เลี้ยงจานจะค่อยๆ เบาลงจนหายไปในที่สุด แล้วอย่าลืมหาช่วงพักเปลี่ยนอิริยาบถ ออกกำลังกาย กิน นอนให้เป็นเวลานะคะ จะได้เรียนออนไลน์ได้แบบสุขภาพดีไปยาวๆ